นอนดึกเป็นประจำ ภัยเงียบที่ทำลายสุขภาพแบบไม่รู้ตัว

ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ คนจำนวนมากจำเป็นต้องนอนดึกเป็นเรื่องปกติ ทั้งเพราะงานที่ต้องทำให้เสร็จ การเรียน การเลื่อนมือถือก่อนนอน หรือความเครียดที่ทำให้หลับยาก แต่รู้หรือไม่ว่าการนอนดึกเป็นประจำ คือหนึ่งในพฤติกรรมสุดอันตรายที่ทำลายสุขภาพทั้งร่างกายและผิวพรรณแบบเงียบ ๆ โดยที่หลายคนไม่ทันสังเกตเห็น

วันนี้ The Original จะพาไปดูว่าการนอนดึกส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร ทำไมคนที่นอนหลังเที่ยงคืนเป็นประจำถึงแก่เร็ว ผิวพัง สมองล้า และน้ำหนักขึ้นง่ายกว่าเดิม พร้อมวิธีปรับพฤติกรรมให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างสมดุลอีกครั้ง

นอนดึกทำให้สมองล้า ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ผลกระทบอย่างแรกของการนอนดึกที่เห็นชัดที่สุดคือสมองทำงานแย่ลง เพราะเมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองจะไม่สามารถจัดระบบข้อมูลและบันทึกความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความจำสั้นลง

เมื่อร่างกายไม่ได้เข้าสู่ช่วงหลับลึกอย่างเหมาะสม สมองจะไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้เต็มที่ ทำให้เรามักลืมง่าย และต้องใช้เวลานานกว่าจะจำสิ่งต่างๆ ได้ดีเหมือนเดิม

สมาธิลดลง คิดงานช้าลง

คนที่นอนดึกต่อเนื่อง 3–5 คืนจะพบว่าโฟกัสงานได้ยากขึ้น ทำงานผิดพลาดบ่อยขึ้น และประสิทธิภาพการแก้ปัญหาจะลดลงอย่างมาก

ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย

เมื่อสมองเหนื่อยล้า ความสามารถในการประเมินสถานการณ์จะลดลง ผู้เชี่ยวชาญพบว่า การนอนพักไม่พอส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์และเหตุผล ทำให้คนที่นอนดึกมีโอกาสตัดสินใจพลาดสูงกว่าคนที่ได้นอนครบ 7–8 ชั่วโมงต่อคืน

นอนดึกทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล กระทบระบบเผาผลาญ

การนอนดึกไม่ได้ทำให้สมองล้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อฮอร์โมนหลายชนิดภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนความเครียด ฮอร์โมนความหิว และฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ระบบเผาผลาญทำงานลดลง

เมื่อร่างกายนอนหลับไม่พอ ต่อมไร้ท่อจะผลิตฮอร์โมนผิดจังหวะ ส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานลดลง แม้จะกินอาหารเท่าเดิม แต่น้ำหนักมีโอกาสขึ้นได้ง่ายกว่าเดิมมาก

หิวง่าย กินจุกจิกมากขึ้น

ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) หรือฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิวจะเพิ่มขึ้นในวันที่พักผ่อนน้อย ทำให้รู้สึกหิวบ่อย โดยเฉพาะอาหารหวานและของทอด ส่งผลให้น้ำหนักพุ่งแบบไม่รู้ตัว

เสี่ยงภูมิคุ้มกันตก

เมื่อฮอร์โมนแปรปรวน ร่างกายจะอ่อนแอง่าย เจ็บป่วยบ่อยขึ้น และใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเดิม

ผิวพรรณเสื่อมโทรมเร็ว แก่ไวเพราะนอนดึก

สำหรับใครที่กังวลเรื่องผิวการนอนดึก ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจเลยก็ว่าได้ เพราะเวลาที่เราหลับ คือช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวอย่างเข้มข้นที่สุด

ผิวโทรม หมองคล้ำ

เมื่อนอนดึก ระบบไหลเวียนเลือดใต้ผิวจะทำงานแย่ลง ทำให้หน้าตาดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส และหมองคล้ำง่าย

ผิวแห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน

การพักผ่อนไม่พอทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นเร็วขึ้น ผิวจึงดูแห้ง ขาดชีวิตชีวา แต่งหน้าไม่ติด

สิวขึ้นง่ายกว่าเดิม

ฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) จะพุ่งสูงเมื่อเรานอนดึก ส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ทำให้สิวอุดตัน สิวอักเสบ และสิวผดขึ้นง่ายมาก

แก่ไว ริ้วรอยมาเร็ว

ตอนหลับร่างกายจะสร้างโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิว แต่เมื่อหลับไม่พอ ฮอร์โมนตัวนี้จะลดลง ส่งผลให้ผิวเสื่อมเร็ว เกิดริ้วรอยไวขึ้น และความยืดหยุ่นของผิวลดลงชัดเจน

ทำไมการนอนดึกถึงเป็นภัยเงียบ?

เพราะผลกระทบไม่ได้แสดงออกทันที แต่จะค่อย ๆ สะสม จนทำให้สุขภาพเสื่อมทั้งภายนอกและภายใน เช่น

  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • ผิวพังเรื้อรัง
  • สมาธิและความจำลดลงต่อเนื่อง

เมื่ออาการเหล่านี้เกิดสะสมเป็นเวลานาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังในอนาคต เช่น เบาหวาน ความดัน ภาวะซึมเศร้า และโรคหัวใจ

6 วิธีปรับพฤติกรรมนอนดึกให้ดีขึ้นแบบง่ายๆ

หากยังเลิกนอนดึกไม่ได้ในทันที ลองเริ่มจากวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูดีขึ้นได้

  1. พยายามเข้านอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้อย่างน้อย 3–4 วันต่อสัปดาห์
  2. ปิดหน้าจอมือถือก่อนนอน 30–60 นาที
  3. ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ หรือเปิดเพลงเบา ๆ
  4. ใช้แสงไฟโทนอุ่นในช่วงก่อนนอน
  5. ดื่มน้ำเพียงพอและหลีกเลี่ยงคาเฟอีนหลังบ่ายสาม
  6. จัดห้องนอนให้มืด อากาศถ่ายเทดี และลดสิ่งรบกวน

นอนดึกเป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ควรเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้

แม้การนอนดึกอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตยุคใหม่ แต่การปล่อยให้ร่างกายพักผ่อนไม่พอเป็นประจำ จะค่อยๆ ทำลายทั้งสุขภาพ สมอง ฮอร์โมน และผิวพรรณอย่างเงียบๆ ยิ่งนอนน้อยเท่าไหร่ ร่างกายยิ่งเสื่อมเร็วขึ้นเท่านั้น

หากคุณกำลังกู้คืนสุขภาพผิวที่หมองคล้ำหรือเป็นสิวเพราะพักผ่อนน้อย การนอนให้เพียงพอคือ สกินแคร์ที่ดีที่สุด และหากต้องการตัวช่วยฟื้นฟูผิวเฉพาะจุด เช่น T-Zone และ U-Zone ก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มาส์กสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวอย่างมาส์กทูโซน เพื่อซ่อมแซมและคืนสมดุลให้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แชร์เลยย

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest